


บอกลาหน้าหย่อนคล้อย!
เปิดประสบการณ์ยกกระชับผิวด้วย HIFU
ยกกระชับ Hifu คืออะไร
Hifu คือ นวัตกรรมความงามที่ช่วยยกกระชับผิวโดยไม่ต้องใช้การฉีด ซึ่งให้ผลลัพธ์เรื่องความอิ่มฟูของผิวได้ดี เครื่อง Hifu ใช้พลังงานจากคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์แบบเฉพาะเจาะจง (Hight Intensity Focus Ultrasound) โดยเครื่องจะส่งพลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ลงสู่ผิวลึกถึงชั้นไขมันและชั้นผิว SMAS เพื่อให้เกิดการหดตัวอย่างรวดเร็ว ลักษณะคล้ายกับการเย็บเนื้อเยื่อ กระตุ้นให้ผิวปรับโครงสร้างให้มีความกระชับ ยืดหยุ่น และแข็งแรงขึ้น นวัตกรรม Hifu มีคุณภาพสูง สามารถทำได้ทุกตำแหน่งแม้แต่รอบดวงตาที่มีความบอบบาง
เครื่อง Hifu มีกี่แบบ กี่ยี่ห้อ ต่างกันอย่างไร?
-
Hifu ธรรมดา: เครื่อง Hifu ธรรมดาจะมีขนาดพลังงานจุดไข่ปลาที่ค่อนข้างเล็ก ไม่เกิน 0.5 mm ซึ่งอาศัยจำนวนครั้งในการทำที่มากกว่า เหมาะกับทำในตำแหน่งที่มีพื้นที่เล็กๆ มากกว่า
-
Sygmalift Hifu: เครื่อง Sygmalift Hifu รุ่น New Generation จะมีการปล่อยพลังงานแบบ Fractional Beam ลงลึกได้ถึงชั้นผิว SMAS ทำให้ช่วยกระตุ้นการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระและกระชับความหย่อนคล้อยได้ดี เจ็บน้อยกว่า
-
Ultrafomer III: เครื่อง Ultrafomer III หรือ Hifu Macrofocus จะมีการใช้คลื่นเสียงชนิด MMFU (Microfocus and Macrofocus Ultrosound) ในการส่งพลังงานลงไปกระชับผิว ซึ่งหลังทำจะเห็นผลลัพธ์การกระชับผิวได้มากถึง 60 – 70% มีค่าพลังงานที่คงที่ ช่วยกระชับไขมันได้ คงผลลัพธ์ได้ค่อนข้างนานประมาณ 1 ปี
Hifu เป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวที่ลงลึกถึงชั้น SMAS และชั้นไขมัน มีการกระตุ้นให้เกิดสารต้านอนุมูลอิสระและปรับโครงสร้างผิวใหม่ ผลลัพธ์ในการทำจึงช่วยกระชับผิวรวมไปถึงทำให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้น ซึ่งช่วยแก้ปัญหาได้ดังนี้
-
ลดความหย่อนคล้อย : ความหย่อนคล้อยของผิวเกิดจากการที่โครงสร้างชั้นผิวขาดความยืดหยุ่น Hifu จะสามารถช่วยเร่งให้เกิดการยกกระชับผิวโดยการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระในชั้นผิว ปรับเส้นใยให้แข็งแรง
-
ลดร่องลึก : เป็นปัญหาผิวที่เกิดจากความหย่อนคล้อยของอิลาสตินในชั้นผิวเช่นกัน Hifuสามารถยกกระชับ และลดความหย่อนคล้อยที่เกิดขึ้นใหม่ได้ โดยเฉพาะร่องลึกเล็กๆ อย่างร่องใต้ตา ร่องแก้ม หรือเส้นบริเวณลำคอ
-
กระชับรูขุมขน : นอกจากการกระชับความหย่อนคล้อยแล้ว รูขุมขนก็จะเล็กลง ผิวโดยรวมดูเรียบเนียน เพราะชั้นผิวแข็งแรงขึ้นหลังทำนั่นเอง
-
ยกกระชับกรอบหน้า : Hifu สามารถช่วยยกกระชับความหย่อนคล้อยของผิวทั้งจากปัญหาเนื้อเยื่อและไขมัน เหมาะกับทำเพื่อแก้ปัญหาแก้มห้อย แก้มย้อย ทั้งจากอายุที่มากขึ้น หรือจากการมีไขมันส่วนเกินบนใบหน้าเยอะได้เช่นกัน
-
แก้ปัญหาคางสองชั้น : เนื่องจาก Hifu สามารถกระชับผิวในชั้นไขมันได้ หากทำบริเวณคางก็ช่วบลดคางสองชั้นได้เช่นเดียวกัน
-
ปรับผิวกระจ่างใสขึ้น : หลังทำ Hifu ผิวจะมีการปรับโครงสร้างให้แข็งแรงขึ้น เป็นการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งส่งผลเรื่องความกระจ่างใสได้อีกด้วย
Hifu เหมาะกับใครบ้าง?
Hifu เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากอายุที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งคนที่กังวลเรื่องไขมันส่วนเกินบนใบหน้าและตามร่างกาย และคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ของสภาพผิวที่ดูอิ่มฟูขึ้น เน้นกระชับผิว ลดเส้นริ้ว และต้องการความเป็นธรรมชาติ ไม่มีแผลหลังทำ รวมถึงไม่ต้องใช้เทคนิคการฉีดหรือการผ่าตัด นอกจากนี้ยังเป็นนวัตกรรมที่เหมาะกับคนทุกวัย สามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 20+ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดร่องแก้ม หรือร่องใต้ตาก่อนวัยได้
Hifu ทำบริเวณไหนได้บ้าง?
Hifu สามารถทำได้ทั้งบนใบหน้าและร่างกาย แต่ควรเลือกยี่ห้อ ค่าพลังงาน หรือหัวยิงความลึกที่เหมาะสมกับส่วนต่างๆ ที่ทำ หากต้องการเครื่อง Hifu ที่สามารถทำได้ทุกตำแหน่งแนะนำให้เลือก Ultraformer III จะเหมาะสมที่สุด สามารถทำตำแหน่งต่างๆ ได้ดังนี้
-
รอบดวงตา : เพื่อช่วยแก้ปัญหาตีนกา และรอยเหี่ยวย่นแห่งวัย พร้อมช่วยยกหางตาเพื่อแก้ปัญหาหางตาได้ดี
-
หน้าผาก : แก้ปัญหาร่องรอยบนผิว รอยย่นบริเวณหน้าผากที่จะส่งผลทำให้ใบหน้าดูมีอายุ
-
แก้ม : ช่วยปรับรูปหน้า แก้ปัญหาลดไขมันแก้ม แก้มหย่อนให้มีความกระชับเต่งตึงมากยิ่งขึ้น
-
กรอบหน้า : เพื่อสร้างกรอบหน้าที่ชัดเจนและเข้ารูปมากยิ่ง สร้างทรงหน้าเรียว หน้าวีเชฟ
-
ใต้คาง : แก้ปัญหาเหนียง หรือคางสองชั้นได้ดี ส่งผลให้ใบหน้าดูสมส่วน
-
คอ : ช่วยลดร่องรอยบนผิว รอยย่นที่คอ ทำให้ผิวดูมีความอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
-
ต้นแขน : ช่วยแก้ปัญหาแขนใหญ่ ต้นแขนไม่กระชับ รวมไปถึงช่วยกำจัดเซลลูไลท์ได้ดี
-
ต้นขา : กำจัดเซลลูไลท์และไขมันส่วนเกิน ทำให้ต้นขากระชับมากขึ้น
-
หน้าท้อง : ลดไขมันหน้าท้อง กำจัดเซลลูไลท์ให้ผิวหน้าท้องกระชับ
-
รอบเอว : ปรับขนาดรอบเอวให้เล็กและกระชับมากขึ้น ช่วยเพิ่มส่วนเว้า ส่วนโค้งให้ร่างกาย
-
สะโพก : ปรับสะโพกให้กระชับเข้ารูปมากยิ่งส่งผลให้มีหุ่นที่เข้ารูปหรือหุ่นวีเชฟ
Hifu มีข้อดี-ข้อเสีย อะไรบ้าง?
Hifu Macrofocus ที่ทำแล้วเห็นผลลัพธ์ได้ดีจะเหมาะกับทำตั้งแต่มีอายุน้อยๆ 20 ปีขึ้นไป เพราะจะช่วยให้มีประสิทธิภาพ ชะลอความหย่อนคล้อย และแก้ปัญหาผิวได้ดี โดยมีข้อดีและข้อจำกัดดังนี้
ข้อดีของการทำ Hifu
-
ยกกระชับผิวได้โดยไม่ต้องใช้เข็มหรือการผ่าตัด
-
มีคุณภาพสูง ไม่ทำให้ผิวไหม้
-
หลังทำไม่ต้องพักฟื้น
-
ไม่มีรอยช้ำหลังทำ
-
ลดรอยเหี่ยวย่น ได้ดี
-
กระชับกรอบหน้า และสลายไขมันส่วนเกินได้บางส่วน
-
สามารถทำบริเวณรอบดวงตาได้โดยไม่กระทบกับการมองเห็น
-
หลังทำสามารถทำหัตถการอื่นๆ ต่อได้
-
ทำซ้ำบ่อยๆ ได้
ข้อเสียของการทำ Hifu
-
ระหว่างทำต้องทนเจ็บในระดับหนึ่งจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีได้
-
หลังทำ 1 – 2 ชั่วโมงอาจมีรอยแดงเล็กน้อย
-
ต้องดูแลหลังทำเป็นพิเศษในช่วงแรกๆ เพื่อลดโอกาสเกิดการระคายเคือง
Hifu หลังทำกี่วันเห็นผล
หลังทำ Hifu ในครั้งแรกจะเห็นผลความเปลี่ยนแปลงทันที 20% จากการหดตัวของผิว หลังผ่านความร้อนสูง เสมือนการจี่เนื้อบนกระทะ ซึ่งผลลัพธ์ของ Hifu จะเห็นผลได้ชัดเจนและได้ประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อผ่านไปแล้ว 2 – 3 เดือน
ข้อควรระวังและผู้ที่ไม่เหมาะกับการทำ HIfu
-
สตรีที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์
-
คนที่มีอาการผิวอักเสบ แผลถลอก หรือเพิ่งผ่านการผ่าตัดมาน้อยกว่า 6 เดือน
-
คนที่มีโรคประจำตัวที่เกิดจากการไหลเวียนเลือดผิดปกติ เช่น โรคความดันโลหิตสูงโรคไต โรคหัวใจ
-
คนที่อยู่ระหว่างการใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker)
-
คนที่มีอาการบกพร่องทางการรับความรู้สึก
ข้อแตกต่างระหว่าง Hifu, Ulthera และ Thermage
Hifu Ulthera และ Thermage ต่างเป็นเครื่องยกกระชับผิวที่ส่งคลื่นพลังงานลงไปเพื่อช่วยให้เกิดการหดตัวของผิวได้คล้ายกัน แต่มีความต่างตรงความลึกในการส่งพลังงาน ลักษณะรูปแบบของคลื่นพลังงาน และความร้อน โดยมีจุดที่ต่างกันดังนี้
